hi5stop

การศึกษาเล่าเรียนการสอนในระบบการเล่าเรียนไทย มักสอนให้เด็กศึกษาหาคำตอบจากปัญหาที่คุณครูหรือคนแก่ตั้งให้ โดยบางทีอาจลืมไปว่าการฝึกหัดเด็กให้ “ถาม” แล้วก็ให้เขาได้ทดลองหาคำตอบ บางทีอาจเป็นการศึกษาที่มีคุณภาพรวมทั้งประสิทธิผลดียิ่งกว่า

การตั้งปัญหาโดยนักเรียน ส่งผลให้เกิดปริศนาที่มากมาย รวมทั้งการหาคำตอบด้วยแนวทางที่แตกต่างกัน ในขณะที่อาจารย์ ผู้ดูแล แล้วก็ ชุมชนบางทีอาจได้ทำความเข้าใจไปกับเด็กด้วย

แนวทางการทำความเข้าใจแบบนี้หาได้ยาก แม้กระนั้นมีกรณีแบบอย่างที่น่าดึงดูดใน จังหวัดจังหวัดสตูล โดยเด็กๆชั้นประถมปีที่ 5 ใน จังหวัดจังหวัดสตูล พวกเขาทำความเข้าใจ จากการเสนอคำถาม พวกเขาถามจากความข้องใจ ตัวอย่างเช่น “ทำยังไงกองทุนหมู่บ้านก็เลยกลับมาเป็นบวกอีกที” “ทำเช่นไรก็เลยจะลดค่าไฟของชุมชนได้” ฯลฯ

เพื่อตอบปัญหาแรก “ทำยังไงกองทุนหมู่บ้านก็เลยกลับมาเป็นบวกอีกรอบ” เด็กๆคิดแผนหาข้อมูลรวมทั้งคำนวณว่า กองทุนติดลบเยอะแค่ไหน คนไหนกันไม่คืนหนี้สิน และก็พบว่าหนึ่งในนั้นเป็นคนที่อาศัยอยู่ภายในครอบครัว เด็กๆก็เลยถามไถ่แล้วก็ทำให้คนภายในครอบครัวนำเงินมาคืนกองทุนหมู่บ้านได้

การเสนอคำถามหนึ่งปัญหาทำให้เด็กได้ศึกษาหลายชนิด ทั้งยังการฝึกฝนวิธีการทำบัญชีแล้วก็การติดต่อสื่อสาร ทั้งยังได้ตระหนักถึงจุดสำคัญของกองทุนหมู่บ้าน และก็แสดงออกผ่านการเป็น active citizen ซึ่งช่วยปรับให้ชุมชนของตนเองมีความแข็งแกร่งอีกรอบ

สำหรับปัญหา “ทำเช่นไรก็เลยจะลดค่าไฟของชุมชนได้” เด็กๆเริ่มหาคำตอบโดยการนำใบเสร็จรับเงินค่าไฟของทั้งยังชุมชนมาคำนวณ เล่าเรียนกรรมวิธีการลดค่าไฟแล้วก็เอามาเสนอคนภายในชุมชน ผลเป็นในเดือนถัดมาพบว่าค่าไฟลดน้อยลง 2 แสนบาท ผลที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่คำตอบการศึกษาของเด็ก ที่ช่วยทำให้มีความถนัด วิชาความรู้ ความสามารถ แล้วก็ทรรศนะ แต่ว่าขยายไปถึงการผลิตผลพวงครอบคลุมการเพิ่มคุณภาพชีวิตของคนภายในชุมชน ซึ่งนี่เป็นแบบอย่างการบรรลุเป้าหมายของการจัดการศึกษาเล่าเรียนใน จังหวัดจังหวัดสตูล

การจัดการศึกษาเล่าเรียนรูปแบบนี้ ส่วนใดส่วนหนึ่งมีเหตุมาจาก จังหวัดจังหวัดสตูล เป็นเยี่ยมในจังหวัดนำร่องของพื้นที่สิ่งใหม่ ซึ่งมีกลไกการทำงานเชิงพื้นที่ ขับการเรียนรู้ของการจังหวัด มีการทดสอบปรับการศึกษาเล่าเรียนการสอนในแบบที่สถานศึกษา ผู้เรียนและก็คนภายในพื้นที่ปรารถนา การจัดการเรียนรู้ใน จังหวัดจังหวัดสตูล ก็เลยมีบทเรียนที่น่าดึงดูด ตั้งแต่จุดกำเนิดจนกระทั่งการแก้ไขปัญหาปัญหากลางทาง

จุดเริ่มจากหัวใจของการเล่าเรียน : RBL-คุณครูสามเส้า-หลักสูตรภูเขามิสังคม
เพื่อเห็นผลลัพธ์การเล่าเรียนดังแบบอย่างพื้นฐาน จังหวัดจังหวัดสตูล เริ่มโดยใช้แบบอย่างการจัดการทำความเข้าใจ “Research-based learning” หรือ RBL หมายถึงนำขั้นตอนแล้วก็ขั้นตอนการศึกษาค้นคว้า มาเป็นวิธีการหลักสำหรับเพื่อการศึกษา เด็กๆได้ศึกษาจากการตั้งปัญหาศึกษาค้นคว้าของ ตนเองจากเรื่องใกล้ตัว โดยการเก็บข้อมูลแล้วก็ตรวจชุมชนผ่านอุปกรณ์ต่างๆ(Social mapping) แล้วเรียนหาคำตอบ พร้อมสร้างสิ่งใหม่ขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหา

อย่างไรก็แล้วแต่ เด็กๆยังจึงควรมีอาจารย์เป็นผู้ส่งเสริม โดย จังหวัดจังหวัดสตูลใช้ “แบบ คุณครู 3 เส้า”หมายถึงคุณครูจากสามส่วนหรือ สูตร 30-30-40 เช่น อาจารย์ในสถานศึกษา อาจารย์ชุมชน แล้วก็อาจารย์บิดามารดา

อาจารย์ในสถานที่เรียนจะเป็นผู้วางแผนจัดแนวทางการเรียนรู้ที่สมควรตามขั้นตอนโครงการฐานศึกษาค้นคว้า พาตรวจสอบชุมชน เพื่อค้นหาหัวข้อที่เด็กพึงพอใจ รวมทั้งด้วยกันปรับปรุงให้เป็นปัญหาศึกษาค้นคว้า

อาจารย์ในสถานศึกษาก็เลยเปรียบได้เสมือนดั่งผู้ฝึกสอนที่ช่วยทำให้ข้อเสนอแนะ รวมทั้งการประมาณความก้าวหน้าของเด็กในชั้นเรียน รวมทั้งการเชื่อมต่อการจัดการศึกษากับคุณครูอีก 2 เส้าเป็นคุณครูในชุมชน ผู้เข้ามาเกื้อหนุนการศึกษาเกี่ยวกับความคิดแล้วก็สภาพแวดล้อม แล้วก็คุณครูบิดามารดาเป็นผู้เข้ามาร่วมสร้างการเล่าเรียนสำหรับเด็กๆไม่ว่าจะเป็นการสอนการบ้าน กระบวนการทำกิจกรรมร่วมกับลูก แล้วก็ร่วมวางแบบกิจกรรมสร้างเสริมการเรียนกับสถานที่เรียน

คุณครูสถานที่เรียนจะใช้ “หลักสูตรภูเขามิสังคม” เป็นราวกับแผนที่สำหรับเพื่อการระบุแนวทางการจัดขั้นตอนจัดแจงศึกษาร่วมกับอาจารย์ชุมชนและก็คุณครูบิดามารดา ซึ่งเป็นหลักสูตรโรงเรียนที่ผสมระหว่างสาระรายละเอียดที่จำเป็นต้องตามหลักสูตรศูนย์กลางฯ แล้วก็ที่ยึดโยงกับชุมชน ด้วยเหตุนั้น ถึงแม้อยู่ในจังหวัดเดียวกันแม้กระนั้นองค์ประกอบของหลักสูตรของแต่ละสถานศึกษาบางทีอาจไม่เหมือนกัน

คนที่ร่วมวางแบบหลักสูตรนี้เป็น ผู้ที่มีการเกี่ยวข้องกับการดัดแปลงหลักสูตร ศูนย์กลางฯ อย่างเช่น ผู้อำนวยการสถานศึกษา คณะกรรมการโรงเรียน อาจารย์ ดำเนินการร่วมกับคนที่เกี่ยวกับการดัดแปลงวิชาความรู้ ชุมชนหรือความคิด ได้แก่ บิดามารดา คุณครูชุมชน รวมทั้งนักเรียน ซึ่งเป็นกรุ๊ปสำคัญที่จะ แสดงความเห็นต่อหลักสูตรที่ตัวเองจะใช้ศึกษา

อย่างไรก็ดี ตอนเริ่มเป็นตอนที่ท้ามากมาย โดยยิ่งไปกว่านั้นสำหรับผู้อำนวยการสถานศึกษา ผู้เป็นปากเสียงชวนคนภายในชุมชนมาร่วมวิธีการวางแบบ หลักสูตรร่วมกัน ซึ่งการจัดการกับความท้านี้ไม่ง่าย แต่ว่าสามารถทำเป็น โดยการทำยังไงนั้น นักเขียนขอนำเสนอในวาระทีดีอาร์ไอ ครั้งหลัง

การฝึกฝนรถจักรยานเหมือนกับเป็นแนวคิดที่กล้วยๆแม้กระนั้นสำหรับผู้ที่จะเริ่มในการปั่นจักรยาน ภายหลังที่เคยเล่นกีฬาอื่นๆมาแล้ว สิ่งที่น่าดึงดูดก็คือ เคล็ดวิธี แล้วก็ ระดับความสามารถที่มีความเจาะจง โดยที่มิได้เน้นย้ำเกี่ยวกับความสามารถการขี่จักรยานเพียงอย่างเดียว ในขณะนี้ รถจักรยานนั้นเป็นกีฬาที่มีความสนุกสนานร่าเริงแล้วก็สามารถบริหารร่างกาย หรือฝึกฝนได้ทุกวัย ตั้งแต่คุณยังเป็นเด็ก นั่นเอง แม้กระนั้นถ้าหากมองดูถึงในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการฝึกฝนเป็นจริงเป็นจัง แล้วนั้น มันอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีอะไรที่มากกว่าสิ่งที่คุณจำต้องทำหรือปฏิบัติอยู่นั่นเอง

หากว่าคุณเป็นนักวิ่ง คุณก็บางทีก็อาจจะมองหาโปรแกรมการฝึกหัดผ่านจำพวกกีฬา Cross Training หรือ เริ่มที่จะทำให้รูปร่างของคุณดีก่อน สำหรับรถจักรยานนั้นพวกเราเจาะลึกถึงจุดบกพร่องทั่วๆไปเกี่ยวกับการขี่จักรยานที่เกิดขึ้นเมื่อพวกเขาเริ่มปั่นจักรยานถนนหนทางทีแรก จากความถนัดการบังคบรถยนต์ที่ไม่ดี ไปจนกระทั่งความบกพร่องสำหรับการใช้เกียร์ สิ่งเหล่านี้สามารถช่วยให้ท่านเลี่ยงข้อบกพร่องแล้วก็ทำให้ท่านบันเทิงใจสานไปกับการขี่จักรยานของคุณได้อย่างดีเยี่ยม

ไม่มีวันลัด จำต้องเริ่มอย่างเป็นขั้นตอน
ถ้าหากคุณมีรถจักรยานใหม่ เครื่องไม้เครื่องมือใหม่ พร้อมที่จะปั่นจักรยานแล้ว ในขณะคุณจ้องไปที่รายการทัวร์ที่ยิ่งใหญ่ ตูร์เดอร์ฟรองซ์ สิ่งที่จำเป็นสำหรับการจัดแจงกับจุดมุ่งหมายของคุณที่อยู่เบื้องหน้าซึ่งก็คือการเริ่มต้นอย่างค่อยๆเป็น ค่อยๆไป อย่าข้ามขั้นตอน ติดตามข้อมูลการขี่ของคุณ ไปเรื่อยอย่างมีระบบและไม่จะต้องรีบ การฝึกหัดตามโปรแกรมอย่างสม่ำเสมอจะช่วยทำให้คุณนั้นบรรลุวัตถุประสงค์สำหรับเพื่อการปั่นจักรยานของคุณ ไม่มีอันตราย และก็ได้ผลลัพธ์ที่ดีเสมอ

เลือกแหล่งพลังงานขณะฝึกให้สมควร
ถ้าเกิดคุณใช้รถจักรยานเป็นตัวเพิ่มความรู้ความเข้าใจของคุณ คุณจำเป็นที่จะต้องศึกษาเกี่ยวกับสถานการณ์การขาดน้ำ รวมทั้งพลังงานที่คุณจำเป็นต้องใช้ การเลือกแหล่งพลังงานของคุณได้อย่างเหมาะควรนั้นจะก่อให้คุณบริหารร่างกายได้นานขึ้น บันเทิงใจขึ้น ความเร็วมากขึ้น จำเป็นต้องมั่นใจว่า คุณจำเป็นที่จะต้องกินน้ำ รวมทั้งได้รับพลังงานอย่างเหมาะควรและก็พอเพียง รวมทั้งเป็นของกินที่ย่อยง่าย ได้แก่ เจล หรือ ของกินที่ย่อยง่าย รวมทั้งกินได้ในตอนที่คุณกำลังอยู่บนรถจักรยาน การกินน้ำ รอดื่มทุกๆ15 นาที และก็การกินอาหารทุกๆ45 นาที จะเป็นจุดริ่มต้นที่ดีจนกระทั่งคุณจะศึกษาค้นพบว่าวิธีการใดเหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ

ปั่นจักรยานโดยไม่มีจุดหมาย
มันไม่มีอะไรไม่ถูกสำหรับผู้ที่มิได้ตั้งเป้าหมายใดๆก็ตามสำหรับในการปั่นจักรยาน แม้กระนั้นถ้าเกิดคุณกำลังมองหาความรู้ความเข้าใจที่จริงจริงของคุณแล้วนั้น คุณอาจจำเป็นต้องกำหนดจุดมุ่งหมายของคุณหรือคิดแผนก่อนที่จะคุณจะออกไปซ้อม เป็นต้นว่าการกำหนดเป้าหมายการขี่อย่างช้าๆก่อนในตอนไม่กี่ชั่วโมงแรง หรือ จะตั้งความมุ่งหมายแบบหนักสลับค่อย Interval โดยใช้โซนอัตราการเต้นของหัวใจ การใช้ไบค์คอมพิวเตอร์ Cycling Computer นั้นจะช่วยทำให้คุณได้รับข้อมูลต่างๆแบบในทันที แล้วก็ ได้ผลย้อนกลับไปสำหรับในการปั่นจักรยานของคุณ และก็ฝึกฝนได้อย่างตรงเป้าหมาย สำหรับคนไหนกันแน่ที่ยังไม่ทราบว่าจำเป็นต้องวางเป้ามหายอปิ้งไร นั้น ผมมีข้อเสนอแนะเป็น ให้พวกเราทดลองทดลองความรู้ความเข้าใจของตัวเราเองก่อนครับ แต่ว่าถ้าหากยังไม่เคยรู้จะเริ่มยังไงอีก ทดลองหาข้อมูลหรือเข้าไปเปลี่ยนประสบการณ์กันได้ครับผม วันนี้มีกรุ๊ปหนึ่งในเฟสบุค ที่ต้องการเสนอแนะขอรับหมายถึงTraining Science By Polar ขอรับ ทดลองเข้าไปร่วมกลุ่มรวมทั้งคุยกันมองครับ

เลือกเครื่องมือไม่เหมาะสม
ราวกับทุกกีฬา รถจักรยานก็อยากเครื่องไม้เครื่องมือที่มีความเฉพาะ สิ่งแรก เป็นกางเกงและก็เสื้อผ้าสำหรับรถจักรยาน ที่มีความเฉพาะ อย่างเช่นเครื่องมือที่จะคุ้มครองป้องกันอวัยวะสำคัญหรือรอบๆสำคัญที่จะจะต้องอยู่บนรถจักรยานตรงเวลาหลายชั่วโมง หรือแรงสั่น บนอานรถรถจักรยานฯลฯอย่าลืมที่จะจำต้องแปลงหรือดูแลเครื่องใช้ไม้สอยที่เกี่ยวกับรถจักรยานของคุณให้อยู่ในภาวะที่ดีและก็พร้อมใช้งานได้อย่างเหมาะควร อย่าลืมหารองแล้วก็บันไดถีบ เฉพาะสำหรับรถจักรยาน สำหรับท่านที่ยังไม่มีประสบการณ์ ทดลองเข้าไปหารือร้านค้ารถจักรยานรวมทั้งทดลองทุกสิ่งทุกอย่างให้มั่นใจก่อนที่จะท่านจะซื้อครับ

ใช้เบรกร้ายแรงเหลือเกิน
โดยทั่วไปแล้วการโต้ตอบของผู้คนนั้น จะใช้เบรคิเพื่อลดความเร็วของรถจักรยานในระยะเวลาสั้นแล้วก็เร็ว กำเบรคอยปิ้งแรง โน่นบางทีอาจจะเป็นต้นเหตุให้ท่านไม่อาจควบคุมจักรยานได้อย่างมีคุณภาพ แล้วก็อาจจะเป็นผลให้สูญเสยการควบคุมรถยนต์ เกิดอุบัติเหตุได้ ฉะนั้นปรับแรงเบรคของคุณจากแรงกดให้ลดลงเพื่อเพิ่มผู้กระทำระจายน้ำหนักแล้วก็ลดแรงเสียดทานบนถนน พากเพียรใช้แรงบีบอย่างสม่ำเสมอสำหรับเบรกข้างหลัง แล้วก็ข้างหน้าเพื่อรถยนต์นั้นหยุดอย่างถาวรแล้วก็ควบคุมได้

ไม่รักษารถจักรยาน
ดังรถยนต์ของคุณ รถจักรยานก็จะต้องได้รับการบำรุงรักษาเป็นครั้งราว เพื่อรถจักรยานอยู่ในภาวะที่ดี แล้วก็บริบูรณ์อยู่เป็นประจำ มีการหยอดน้ำมัน น้ำมันจาระบี และการสำรวจระบบเบรก ระบบเปลี่ยนเกียร์ และก็ บันไดถีบ ว่าปฏิบัติงานเจริญ เช็คน็อตรวมทั้งยางต่างๆอย่างสม่ำเสมอ ถ้าหากคุณไม่รู้เรื่องว่าจำเป็นจะต้องซ่อมแซมหรือขจัดปัญหาเช่นไร ให้ทางร้านค้ารถจักรยานเขาช่วยปรับแก้ให้ท่านจะดีมากกว่า

ปรับความสูงอานไม่ถูก
สำหรับการปั่นจักรยานระยะทางไกลๆการปรับระดับความสูงของอานไม่ถูก สูงเกินความจำเป็น หรือต่ำเกินความจำเป็น นั้นบางทีก็อาจจะส่งผลให้เกิดอาการบาดเจ็บอย่างหนัก อาจจะมีการเกิดอาการชารอบๆขา หรือมีลักษณะบิดของหัวเข่าสาเหตุจากการเคลื่อนที่บ่อยๆเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน หรืออาการอักเสบต่างๆตาม มา ด้วยเหตุผลดังกล่าวถ้าหากคุณไม่มีความรู้สำหรับการปรับความสูงของอานหรือการฟิตติ้ง ขอเสนอแนะให้ท่านขอคำแนะนำกับร้านค้ารถจักรยานใกล้บ้านของคุณเพื่อเขาช่วยทำให้หรือฟิตติ้งให้จะเป็นเรื่องดีที่สุด หรือให้เขาสอนการปรับอานเบื้องต้นให้ครับผม ถ้าเกิดเป็นได้ ภายหลังที่ปรับตั้งแล้ว ให้ทดลองนำรถจักรยานของคุณขึ้นผู้ฝึกสอน แล้วทดลองขี่อย่างช้าๆแล้วทดลองหยุดขาของคุณที่เลขหก ของเข็มนาฬิกา หัวเข่าของคุณจะงอนิดหน่อย ถ้าเกิดน้อยเกินไปดีไหมรู้สึกสบายก็ให้ทดลองปรับเล็กๆน้อย อีกทั้ง ตำแหน่งของคลีทรวมทั้งบันไดถีบด้วยเหมือนกัน เพราะฉะนั้นความสูงที่สมควรจำเป็นจะต้องไม่ก่อกวนความรู้ความเข้าใจสำหรับในการปั่นจักรยานและไม่มีการเจ็บด้วยครับผม ก็เลยเป็นความสูงที่สมควร

คุณไม่ทราบจะทำยังไงเมื่อยางแบน
ทำความเข้าใจการปรับปรุงเมื่อยางรถยนต์ของคุณแบนก่อนจะออกมาจากบ้าน ติดยาเสพย์ติดงอะไหล่สำรองรวมถึงเครื่องใช้ไม้สอยเปลี่ยนแปลงและก็ CO2 สำหรับที่ปั๊มลมในกรณีที่แปลงยางอะไหล่ระหว่างทาง คุณอาจจะเก็บสิ่งกลุ่มนี้ไว้กับข้างหลังเสื้อของคุณ หรือ แม้ระเป๋าใส่ไว้ใต้อานของคุณ ประสบการณ์นี้คนเขียนก็เคยเจอพยายามครับผม สำหรับ ทริปที่จะจำเป็นต้องไปไกลๆและไม่มีรถยนต์บริการ การเรียนความชำนาญสำหรับเพื่อการเปลี่ยนแปลงยางเองนั้นเป็นเรื่องสำคัญมากมายครับผม โดยเฉพาะเวลาไปผู้เดียว (Solo-Rider)

พักไม่พอ
สำหรับการดำเนินงานของคุณก็กำเนิดความเคร่งเครียดพอเพียงแล้ว โดยเหตุนั้นหากรวมเอาการดำเนินการ เรื่องที่บ้านและก็การฝึกฝนเกินอีก เข้าด้วยกันอาจจะส่งผลให้คุณได้รับบาดเจ็บ ฉะนั้นการได้รับของกินที่สมควรแล้วก็พักอย่างพอเพียง 8 ชั่วโมงจะก่อให้ร่างกายของคุณมีการรู้สึกตัวภาวะ แล้วก็มานะหาตารางสำหรับในการพักหรือวันพักสำหรับการฝึกฝนของคุณ แล้วก็การหาเครื่องดื่มหรืออาหารเสริม การใช้กิจกรรมการฟื้นภาวะอื่นๆดังเช่น ว่าย หรือ โยคะ ในวันพักก็จะสามารถช่วยทำให้คุณรู้สึกชื่นบาน

หลายคนเมื่อมีความรัก สิ่งที่จำเป็นก็คือ ความวางใจกันแล้วคุณล่ะเป็นแบบงี้มั้ย …

วันนี้คุณไว้ใจผู้ที่รักคุณหรือยัง ?
ข้อคิดเตือนใจความรัก สิ่งจำเป็นคนมีคู่

ความไว้วางใจ…
1. การที่มนุษย์เราคิดที่จะอยู่ร่วมกันแล้วนั้นจะต้องมีความไว้เนื้อไว้ใจกัน อย่ามีความหวาดระแวงกัน เนื่องจากการสงสัยนั้นผู้ที่สงสัยก็จะปราศจากความสุข ก็จำเป็นที่จะต้องนั่งคิดอยู่เสมอเวลา ว่าคู่รักของตนเองอยู่หนไหน ทำอะไร กับผู้ใดบ้าง ส่วนผู้ที่ถูกสงสัยก็รู้สึกอึดอัดทำอะไรผิด เกรงว่าจะถูกป้ายความผิด เกรงว่าจะถูกรู้ผิด ท้ายที่สุดผู้ที่ถูกสงสัยตลอดระยะเวลานั้นก็จะมีความคิดว่า อารมณ์เสีย รำคาญ และก็บางบุคคลก็บางทีอาจจะตกบันไดพลอยโจนไปเลย ก็คือ .. เมื่อถูกใส่ร้ายป้ายสีมากมายๆมิได้รับความเชื่อมั่นก็เลย ทำไปเลยเสมือนอย่างที่ถูกป้ายความผิด เข้าทำนองเนื้อมิได้รับประทาน หนังมิได้รองนั่ง เรื่องอะไรจะเอากระดูกมาแขวนคอ ก็เลยเอาเนื้อมากิน เอาหนังมารองนั่งให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย

พวกเราเลือกแล้ว …
2. การที่จะเป็นคู่ชีวิตกับคนไหนกันแน่นั้นพวกเราจำต้องเลือกแล้วตรึกตรองแล้ว และก็การที่พวกเราเลือกเค้าแล้วไตร่ตรองเค้า แล้วพวกเราก็น่าจะไว้ใจเค้า แม้กระนั้นที่สำคัญตัวเราเองนั้นก็จำต้องปฏิบัติตนพวกเราให้คนอื่นๆไว้วางใจพวกเราด้วย ครั้งคราวการที่พวกเรามิได้รับความเชื่อถือ บางทีอาจมิได้เป็นผลมาจากเขาด้านเดียวแม้กระนั้นอาจจะมีการเกิดขึ้นจากตัวเรา ที่ปฏิบัติตัวไม่น่า ไว้ใจในอดีตกาลก่อนหน้าที่ผ่านมา ก็เลยทำให้เขาสงสัยพวกเราตลอดกาลแล้วก็เมื่อเป็นแบบนั้นพวกเรา แล้วก็เขาต่างก็ปราศจากความสุข

ความบริสุทธิ์ใจ …
3. การที่พวกเรารักกันนั้นต้องมีความบริสุทธิ์ใจต่อกัน พูดเรื่องจริงกันอย่าได้ปกปิดแล้วก็อย่าได้โป้ปดมดเท็จต่อกัน การที่มนุษย์เราอยู่ร่วมกันแล้ว พูดเรื่องจริง 9 เรื่องแม้กระนั้นพูดเท็จเพียงแต่ 1 เรื่อง รวมทั้งหากว่าหัวข้อนั้นจับได้ พวกเราอย่าสนเท่ห์ใจถ้าหากว่าเขาจะเริ่มย้อนไป ไปสงสัย 9 เรื่องที่เค้าเคยเชื่อพวกเรามาก่อน ด้วยเหตุนี้ถ้าจะอยู่ร่วมกันแล้วอย่าพูดปดกันเลย มีอะไรก็พูดจากันดีๆมีอะไรก็ชี้แจงกัน มีความสุจริตใจต่อกัน เพื่อทั้งสองฝ่าย บันเทิงใจว่าทุกถ้อยคำที่ได้ยินจากปาก ของผู้ที่ตนรักจะเกิดเรื่องจริงทั้งหมด ไม่ต้องมานั่งพินิจพิจารณาว่าเรื่องไหนเท็จ เรื่องไหนจริง พวกเราก็ไม่ว่างที่จะดูแลต้นรักให้เติบโตเจริญงอกงาม

แล้วคุณล่ะวางใจผู้ที่คุณรักหรือยัง?